วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Valentine’s Day



                  
                       14 กุมภาพันธ์นั้น เป็นวันเสียชีวิตของนักบุญวาเลนไทน์ หรือเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญแห่งความรักนั่นเอง นักบุญวาเลนไทน์ เป็นผู้ริเริ่มการจัดงานแต่งงานในยุคที่ไม่นิยมให้แต่งงานกัน เหตุเพราะในช่วงนั้น โรม ต้องประสบกับสงคราม จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ต้องการเกณฑ์คนไปรบ แต่มีบุคคลจำนวนมากที่มีครอบครัว มีภรรยา มีคนรัก ต่างไม่อยากจะทิ้งครอบครัวไป ทำให้ จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ตัดสินใจให้ยกเลิกการแต่งงานและการหมั้นทั้งหมดของชาวโรมันในยุคนั้นไปหมด อย่างสิ้นเชิง

                   แต่นักบุญวาเลนไทน์กลับสวนกระแสของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ชักชวนคู่รักมาแต่งงานหลายต่อหลายคู่ จนโดนจับตัวไปขังเอาไว้ และในคุกที่คุมขังนักบุญวาเลนไทน์นั้น เขาได้พบรักกับสาวตาบอดนางหนึ่ง เมื่อโดนจับได้ นักบุญวาเลนไทน์จึงถูกนำตัวไปประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็น วันวาเลนไทน์ วันที่ผู้คนจะรำลึกถึงนักบุญผู้อุทิศตนให้ความรักนั่นเอง




สัญลักษณ์วันวาเลนไทน์คือ เทพเจ้าคิวปิด ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรักดั้งเดิมของชาวโรมัน ร่างกายเป็นเด็กทารกติดปีก กำลังโก่งคันศรทองเล็งไปยังหัวใจของผู้คน ตามตำนานของกรีกและโรมันพูดถึงคิวปิดว่า เป็นบุตรของมาร์ (เทพเจ้าของสงคราม) และ วีนัส (เทพเจ้าแห่งความรักและความงาม


วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วันคริสต์มาส



วันคริสต์มาส คริสต์มาส เทศกาลคริสต์มาส คริสต์มาสอีฟ

เทศกาลคริสต์มาส เป็นการฉลองการบังเกิดของพระเยซูที่เราเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม คำว่า ” คริสต์มาส ” เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ ว่า Christes Maesse ที่แปลว่า “บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า” คำว่า “Christes Maesse” พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษในปี 1038 และคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas
ในภาษาไทย ” คริสต์มาส ” ก็มีความหมาย เช่นกัน คำว่า “มาส” แปลว่า “เดือน” เทศกาลคริสต์มาสจึง เป็นเดือนที่เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์เจ้าเป็นพิเศษ คำว่า”มาส” คือ”ดวงจันทร์” ตีความหมายในภาษาไทยคือพระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก เหมือนดวงจันทร์ เป็นความสว่างในตอนกลางคืน Merry X’mas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า”สันติสุขและความสงบทางใจ
คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ ถือเอาประเพณีของชนในท้องถิ่นนั้น มาประยุกต์เข้ากับศาสนา โดยจัดให้มีการฉลองเพื่อระลึก ถึงการบังเกิดของพระเยซู ที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลิศประเพณี นี้ ได้เริ่มมาจากรุงโรมในศตวรรษ ที่ 4 และ ค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป

วันคริสต์มาส

ChristmasTreeLogo

Xmastree3ต้นคริสต์มาส ในสมัยโบราณหมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และ ทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัดถึงความหมายของคริสต์มาสและเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลางเพื่อประดับฉากแสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวาต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่าย ที่สุดในประเทศเหล่านั้น
การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้นกลายเป็นการเล่น เหมือน ลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนาซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดายที่ ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆแบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด ที่เขาเคยร่วมสนุกกัน
จากนั้นก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ลและแขวนแผ่นขนมปังเพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่ง ก็มีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญ อย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
เราจะเห็นได้ว่าวันคริสต์มาสเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พระบุตร ของพระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์เป็นพระเจ้า ที่จะอยู่กับเราตลอดไป เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ เป็นพี่หัวปีที่จะนำมนุษย์ทั้งมวลไปสู่พระบิดาเจ้า พระองค์เป็นความสำเร็จบริบูรณ์ ตามคำ สัญญาของพระเจ้าที่จะดูแลป้องกัน รักษาเราผู้เป็นประชากรของพระองค์
วันคริสต์มาส

santaclause

วันคริสต์มาส
วันคริสต์มาสนี้เริ่มตั้งแต่คริสตวรรษที่ 4 มีนักบุญคนหนึ่งชื่อ “นิโคลาส ” หรือ “เซนต์นิโคลาส” ท่านเป็นนักบุญ ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเด็กหนุ่ม ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆราชแห่งแคว้นไมรา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ท่านได้กลายเป็นนักบุญอุปถัมถ์ประจำชีวิตเด็ก
เด็กในประเทศอังกฤษ จะเรียกคุณตาใจดีว่า “คุณพ่อแห่งวันคริสต์มาส” ( Father Christmas ) เด็กเยอรมันนีเรียกว่า”ญาติแห่งพระคริสต์”( Christ Child ) เด็กชาวดัชท์เรียกว่า “ซาน นิโคลาส” หรือ “Sankt Klous” ในที่สุดกลายเป็น ” ซานตาคลอส ” ติดปากเด็กๆทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 1866 นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อ โธมัส แนส เป็นคนแรกที่วาดภาพของ ซานตาคลอส ขึ้นมาลักษณะเหมือนที่เรา เห็นทุกวันนี้ ลงพิมพ์ในหนังสือ “Horpers Weekly” เป็นครั้งแรกใบหน้าของซานตาคลอส เป็นสีแดงอมชมพูเหมือนกลีบกุหลาบ จมูกแดงเหมือนผลเชอรี่สุก นัยน์ตาสุกใสเป็นประกาย หนวดเคราสีขาวท่าทางใจดี ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียง ตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย คือความปิติยินดีชื่นชม ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง และที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กๆคือ ของขวัญ ของขวัญ และ ของขวัญ

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โครงงานอาชีพ เรื่อง แซนด์วิชหรรษา

โครงงานอาชีพ

เรื่อง แซนด์วิชหรรษา


จัดทำโดย
นางสาวธัญญามณี             เทพคำอ้าย          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นางสาวเบญจวรรณ          จันแก้วห้าง          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นางสาวนิภานันท์             ใจริน                    ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นางสาวอารีรัตน์               บ้านกล้วย            ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นายชนาธิป                       ขันใจ                   ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ครูที่ปรึกษา
นายสุคนธ์  ปวงดอกจี๋




กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้สำเร็จสมบูรณ์ด้วยดี  โดยได้รับการสนับสนุนจาก ดร.วิภาดา สัณฐิติ ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์โยเซฟแม่ระมาด ครูสุคนธ์ ปวงดอกจี๋ครูที่ปรึกษาโครงงาน  ตลอดจนเพื่อนๆที่ได้กรุณาเสียสละเวลาอันมีค่า เพื่อให้คำแนะนำปรึกษาในการจัดทำโครงงานในครั้งนี้ และคอยให้กำลังใจด้วยความเอื้ออาทรกันตลอดมา จนสามารถจัดทำโครงงานจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จึงขอขอบพระคุณทุกท่านมา  ณ ที่นี้

                                                                                             คณะจัดทำ








สารบัญ
             เรื่อง                                                                                                                                         หน้า
      บทคัดย่อ
      กิตติกรรมประกาศ
      สารบัญ
      สารบัญตาราง
      สารบัญรูปภาพ
      บทที่ 1                                                 บทนำ
                                                                  ที่มาและความสำคัญ
                                                                  วัตถุประสงค์ของโครงงาน
                                                                  ขอบเขตของการศึกษา
      บทที่ 2                                                เอกสารที่เกี่ยวข้อง
      บทที่ 3                                               เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน
                                                                  เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์
                                                                  วิธีการดำเนินงาน
      บทที่ 4                                               ผลการดำเนินงาน
      บทที่ 5                                               สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
      บรรณานุกรม
      ภาคผนวก





สารบัญตาราง
       ตารางที่                                                                                                   หน้า
.แสดงประเภทของงานประดิษฐ์
โครงงานอาชีพ            นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6                                                            
  ชื่อเรื่อง                       แซนด์วิชหรรษา                                                                                                  จัดทำโดย                      นางสาวธัญญามณี         เทพคำอ้าย                                                                                                              นางสาวเบญจวรรณ    จันแก้วห้าง                            
                                      นางสาวนิภานันท์        ใจริน                                                                           
                                      นางสาวอารีรัตน์             บ้านกล้วย                                                                    
                                     นายชนาธิป      ขันใจ                                                                   

                                                              ครูที่ปรึกษา     
                                                    นายสุคนธ์       ปวงดอกจี๋                                                        โรงเรียน เซนต์โยเซฟ 271 หมู่ 4 ถนน.แม่ระมาด – ท่าสองยาง ตำบล แม่ระมาด อำเภอ แม่ระมาด จังหวัดตาก 63140           
  

บทคัดย่อ
                     ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ มีความเร่งรีบในการทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ นอกบ้านจึงทำให้ไม่สะดวกในการจัดเตรียมอาหารเพื่อนำไปรับประทานระหว่างที่ออกไปข้างนอกได้ทัน เวลา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นแด็กหรือผู้ใหญ่ นับเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเรา
                      ผลจากการทำโครงงานแซนด์วิช เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายที่สุดแก่ผู้ที่ไม่มีเวลาทำอาหารรับประทานเองในตอนเช้าหรือผู้ที่เร่งรีบในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายในบ้านและนอกบ้านซึ่งการทานแซนด์วิชรับประทานง่าย ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญ ชีสมีโปรตีนและแคลเซียมสูงเป็นสวนประกอบที่สำคัญของเนื้อกระดูกชวยทำให้กระดูกแข็งแรงและชวยปองกัน โรคกระดูกพรุนได นอกจากนี้ ชีสยังเป็นอาหารที่มีประโยชนตอสุขภาพฟันเพราะมีน้ำตาลในปริมาณต่ำ แต่มีโปรตีนในรูป ของแคลเซียมที่ชวยเคลือบผิวฟันและปองกันฟันผุ


บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาของโครงงาน
                ประเทศไทยพึ่งพาความรู้ด้านงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือพัฒนาประเทศเช่นกันจึงมีความต้องการประชาชนที่มีความรู้ มีสมรรถภาพพื้นฐานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพียงพอที่จะเป็นฐานกำลังในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งสามารถนำความรู้งานอาชีพและเทคโนโลยีที่มีเป็นอย่างดีนั้นใช้ดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข ตลอดจนสามารถปรับตัวช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นไปอย่างราบรื่นและเหมาะสม กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนทั้งการดำรงชีวิตประจำวันและงานอาชีพต่างๆ เครื่องมือเครื่องใช้ตลอดจนผลผลิตต่างๆ ที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน ล้วนเป็นผลของความรู้ด้านนี้ทั้งสิ้น ดังนั้นกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีจึงเป็นวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้  (Knowledge Based Society) ทุกคนจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา เพื่อนำความรู้ ความเข้าใจ ทักษะการทำงานและสามารถนำความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม
                สำหรับการพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพในการทำงาน การประกอบอาชีพและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมในสังคมได้อย่างมีความสุขนั้น เพื่อเสริมศักยภาพดังกล่าว โดยให้ความรู้ความเข้าใจ และมีความสามารถเกี่ยวกับงานอาชีพและเทคโนโลยี มีทักษะการทำงาน ทักษะการจัดการ สามารถนำเทคโนโลยีและสารสนเทศ เทคโนโลยีจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน ภูมิปัญญาไทยและเทคโนโลยีสากลมาใช้ในการทำงานอย่างถูกต้อง เหมาะสม คุ้มค่า และมีศีลธรรม คุณธรรม สร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือวิธีการใหม่ สามารถทำงานเป็นหมู่คณะ มีนิสัยรักการทำงาน เห็นคุณค่า และมีเจตคติที่ดีต่องาน ตลอดจนมีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่เป็นพื้นฐาน ได้แก่ ความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดและอดทน อันจะนำไปสู่การเป็นผู้เรียนที่สามารถช่วยเหลือตนเองและพึ่งตนเองได้ สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ร่วมมือและแข่งขันในระดับสากลภายใต้บริบทของสังคมไทย
                   ด้วยเหตุนี้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2  จึงได้ศึกษาเกี่ยวกับการการทำแซนด์วิชเพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคตต่อไป
1.2 จุดประสงค์
    1.     เพื่อศึกษาการทำอาหารว่าง เช่น แซนด์วิช                                                                                                               2.            เพื่อศึกษาคุณค่าทางอาหารของแซนด์วิช
1.3 สมมุติฐาน
                   ในการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ กระบวนการทำงาน และทักษะด้านต่างๆในการทำงาน ทั้งในด้านพฤติกรรม ด้านจิตใจและด้านปัญญา โดยการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและการปฏิบัติจริง
1.4 ข้อตกลงเบื้องต้น (ขอบเขตการศึกษา)
                   ในการศึกษาครั้งนี้จะศึกษาเกี่ยวกับการทำแซนด์วิชและคุณค่าของแซนด์วิช
1.5 วิธีดำเนินงาน
  1.     การเลือกประเด็นที่จะศึกษา                                                                       
2.      วางแผนการทำงาน                         
3.            การดำเนินงานทำโครงงาน                                                                                                           
  4.            ศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต                                                                                                                                       
 5.    การปฏิบัติจริง (ขั้นตอนการทำแซนด์วิช)                                                                                                 
 6.            การเขียนรายงาน                                                                                                               
   7.            การนำเสนอผลงาน
1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                   
1.    ได้ความรู้เกี่ยวกับการทำแซนด์วิช                                                                                                                        2.            ได้ทราบถึงคุณค่าทางอาหารของแซนด์วิช                                                                                                         3.            นำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพในอนาคต


บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
                   การศึกษาโครงงานเรื่อง แซนด์วิช จะทำการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการทำแซนด์วิช คุณค่าของแซนด์วิช โดยวางกรอบเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาไว้ ดังต่อไปนี้
2.1 ที่มาของแซนด์วิช                                                                                                                           อาหารเช้าง่าย ๆ อย่างแซนด์วิช (Sandwich) เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความสะดวกสบาย และสร้างความสุขให้กับการรับประทานอาหารของมนุษย์ ในการรับประทานขนมปังแผ่นสอดไส้เนื้อ สัตว์ หรือตามชอบใจ ประกบด้วยขนมปังอีกแผ่น หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ รับประทานได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส แถมยังอร่อยอีกด้วย แต่ใครจะคิดว่าจุดกำเนิดของแซนด์วิชนั้นเกิดขึ้นมาง่ายยิ่งกว่าวิธีการทำเสียอีก
                   กาลครั้งหนึ่งนานมากแล้วย้อนกลับไปในช่วงก่อนคริสต์ศักราช มีชายสูงอายุผู้หนึ่งชื่อว่า ฮิลเลล (Hillel) เป็นชาวยิว ได้นำขนมปังแผ่นใหญ่มาประกบกันแล้วสอดไส้ด้วยถั่วสับ แอปเปิ้ลหั่น และเครื่องเทศหลายชนิด เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความทุกข์ทรมานที่ถูกชาวอียิปต์บังคับใช้แรงงานเพื่อก่อสร้างสิ่งสถาปัตยกรรมของอียิปต์ และแซนด์วิชชนิดนั้นก็เป็นที่รู้จักในชื่อว่า แซนด์วิชฮิลเลล แต่ดูเหมือนเรื่องจุดกำเนิดของแซนด์วิชฮิลเลล จะไม่โด่งดังเท่ากับจุดกำเนิดที่มาจากเอิร์ลแห่งแซนด์วิช
              ในช่วงศตวรรษที่ 18 ณ วงไพ่ในประเทศอังกฤษ เหล่าขุนนางชั้นสูงกำลังจั่วไพ่กัน อย่างสนุกสนานเล่นกันจนลืมวันลืมคืนตลอด 24 ชั่วโมง มีขุนนางนายหนึ่งชื่อว่า จอห์น มอนทากู (John Montagu) หรือเอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 (4th Earl of Sandwich) ดันเกิดหิวขึ้นมาในขณะที่เล่นไพ่ แต่ครั้นจะให้ลุกไปนั่งรับประทานอาหารก็กลัวว่าจะเสียรูปเกม จึงสั่งให้พ่อครัวทำอาหารที่สามารถรับประทานได้สะดวก ไม่เสียเวลาในการเล่นไพ่ และต้องไม่ทำให้ไพ่ของเขาต้องเปรอะเปื้อนจากการรับประทานอาหารด้วยมือเปล่า พ่อครัวจึงนำขนมปังแผ่นสอดไส้ด้วยเนื้อ และชีส ประกบด้วยขนมปังอีกแผ่นมาเสิร์ฟ เหล่าบรรดาขาไพ่ก็สามารถหยิบขึ้นมารับประทานได้ด้วยมือข้างเดียว และมือไม่เปื้อนอีกด้วย เพราะน้ำจากเนื้อสัตว์ได้ถูกขนมปังดูดซึมเข้าไปหมดแล้ว จนกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจกันเป็นอย่างมาก อาหารที่ชื่อว่าแซนด์วิช ก็เลยเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่วันนั้นเอง 
                   แต่ในความเป็นจริงแล้วท่านเอิร์ลคนนี้ไม่ได้เป็นคนคิดค้นแซนด์วิชขึ้นมาเป็นคนแรก เพียงแต่เขาได้นำแนวคิดมาจากการที่ได้เห็นขนมปังย่างขนาดเล็ก และคานาเป้ (Canap) ของชาวกรีกโบราณ และชาวเมดิเตอร์เรเนียนที่นำมาเสิร์ฟระหว่างที่กำลังทำงาน จึงรู้สึกว่าการรับประทานอาหารเช่นนี้นั้นสะดวกสบายใช้เพียงแค่ 2 นิ้วจับเข้าปาก เลยนำมาปรับเปลี่ยนนิดหน่อยโดยการใช้ขนมปังสองแผ่นแล้วสอดไส้ด้วยเนื้อ หยิบใส่ปากได้ง่าย และมือก็ไม่เปื้อน จนกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนชั้นสูงของอังกฤษ
                   หลังจากที่แซนด์วิชเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ความนิยมในการรับประทานก็ออกนอกวงไพ่ นิยมนำมารับประทานเป็นมื้อเที่ยง มื้อเย็น รับประทานกับน้ำชา เวลาไปปิกนิก และเป็นที่นิยมมากในร้านเหล้า และโรงแรมขนาดเล็ก
                   จากนั้นไม่นานมีคนอ้างอิงไว้ว่าสาวชาวอังกฤษนามว่า ลิซาเบธ เลสลี่ ก็ได้นำแซนด์วิชเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้แฮมเป็นส่วนผสมสำหรับสอดไส้ และเธอยังได้เขียนสูตรสำหรับทำแซนด์วิชแฮมไว้อีกด้วย จากนั้นแซนด์วิชก็กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในอเมริกา ร้านเบเกอรี่ต่าง ๆ ก็หันมาทำแซนด์วิชขาย เพราะง่ายต่อการทำ และเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และคนงานทั่วไปอีกด้วย
              จากเรื่องเล่าได้กล่าวไว้ว่าในสมัยพระนารายณ์มหาราช ความสัมพันธ์ด้านการทูตของไทยกับต่างชาติกำลังเจริญรุ่งเรือง มีพ่อค้าชาวอังกฤษนามว่า แซม เมเจอร์ (Sam Major) ได้ออกเดินทางค้าขายสินค้าไปทั่วโลกจนมีฐานะร่ำรวย และได้เดินทางค้าขายเข้ามายังน่านน้ำของเมืองไทย และค้าขายอยู่ที่เมืองไทยจนมีลูกเรือเป็นชาวไทย ชื่อว่า สน
                   เมื่อค้าขายจนมีเงินทองมากมายแล้ว แซมต้องการจะกลับบ้านที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งในระหว่างการเดินทางก็ยังมีการค้าขายสินค้าอยู่เรื่อย ๆ จนมาถึงเมืองระยอง และกำลังมุ่งหน้าไปยังแหลมมลายู โจรสลัดที่อยู่บริเวณนั้นรู้ข่าวจึงดักปล้นในขณะที่เรือกำลังลอยคว้างอยู่กลางทะเลจึงเกิดการปะทะกัน ฝ่ายของแซมก็พยายามต่อสู้เพื่อรักษาเรือ และทรัพย์สินของตัวเองเอาไว้ แต่ไม่สามารถเอาชนะได้ และโจรสลัดได้เจาะเรือจนรั่ว แต่โชคดีที่นายสนเป็นช่างเรือที่ชำนาญงานจึงได้พยายามซ่อมแซมรอยรั่วแต่น้ำก็ยังไหลทะลักเข้ามาไม่ยอมหยุดแซมจึงต้องนำเรือไปซ่อมที่นครศรีธรรมราช 
                   ระหว่างทางนายแซมต้องเกณฑ์ลูกเรือช่วยกันวิดน้ำเพื่อไม่ให้เรือจม ในระหว่างที่วิดน้ำออกจากเรืออย่างขมักเขม่นนั้น แซมเห็นว่าลูกเรืออ่อนระโหยโรยแรง จึงนำขนมปัง วางทับด้วยปีกไก่ และประกบขนมปังอีกแผ่นแล้วแจกให้ลูกเรือได้รับประทาน และให้ลูกเรือได้มีมืออีกข้างหนึ่งไว้คอยวิดน้ำไม่ให้เข้าเรือด้วย สุดท้ายเรือมาถึงนครศรีธรรมราชด้วยความปลอดภัย
                   ระหว่างที่รอเรือซ่อม นายสนได้ลองนำขนมปังมาประกบกับปีกไก่แบบที่นายแซมทำให้รับประทานในเรือมาขายเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวนครศรีธรรมราช หลายคนจึงอยากรู้ว่าขนมชนิดนี้คืออะไร ก็ได้คำตอบจากนายสนว่า เป็นอาหารที่นายแซมทำให้รับประทานตอนวิดน้ำออกจากเรือ และเรียกอาหารชนิดนี้ว่า ขนมแซมวิดน้ำ และเมื่อนายแซมกลับไปถึงประเทศอังกฤษก็ได้ทำขนมแซมวิดน้ำขายบ้าง ชาวอังกฤษจึงเรียกอาหารชนิดนี้แบบสั้น ๆ ว่า ขนมแซมวิด จนเพี้ยนมาเป็นคำว่า แซนด์วิชนั่นเอง
                   ในปัจจุบันแซนด์วิชก็ถูกปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบต่างๆ มากมาย จนเลือกรับประทานกันไม่หวาดไม่ไหว แต่อย่างไรก็เป็นอาหารยอดนิยมของคนทั้งโลกจริง ๆ เพราะแซนด์วิชถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบาย หยิบจับรับประทานง่าย หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารที่ยุ่งยากเสียเวลา ช่วยเพิ่มระเวลาการเดินทางไปทำงานของหลาย ๆ คนได้มากขึ้น และยังสามารถรับประทานในระหว่างเดินทางได้อีกด้วย  
2.2 คุณค่าของแซนด์วิช
1. ผัดสลัดหรือผักกาดหอม
มีคุณค่าทางโภชนาการ คือ ประกอบด้วยวิตามินบี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และลูเทียน (lutein) มียาง (latex) ชื่อ แลคทูคาเรียม (lactucarium) ซึ่งมีระดับสูงมากขณะออกดอก นอกจากนั้นยังมีวิตามินบีสูงด้วยสรรพคุณของผักกาดหอมและวิธีใช้ผักกาดหอม นั้นมักใช้เป็นผักสลัดมีสารต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับผักสลัดที่มีสีเขียวอื่น ๆ ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของผักกาดหอมคือ ใบ เมล็ด และต้น ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้                                                                                                                                         - ต้นผักกาดหอมทั้งต้นคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาทาฝีมะม่วง (รีดเอาหนองออกก่อน) ใช้ขับพยาธิ แก้         พิษ ขับลม เป็นยาระบาย                                                                                                                                                    - ใบผักกาดหอม น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ไอ ทำให้หลับง่าย แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ                                             - เมล็ดผักกาดหอม ใช้รักษาโรคตับ ขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ระงับปวด แก้ปวดเอว และรักษาโรค       ริดสีดวงทวาร
2. แอปเปิล
คุณค่าทางโภชนาของแอปเปิ้ลต่อน้ำหนัก 100 กรัม จะให้พลังงาน 52 kcal และ 220 kJ และยังประกอบไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และ โปรตีน อีกด้วย
3.แฮม
 เนื้อหมูเป็นเนื้อสัตว์ที่อุดมด้วยโปรตีนและสารอาหารต่างๆ รวมทั้งกรดไขมันและโคเลสเตอรอลโปรตีน ไขมัน เถ้า วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง ไนอาซิน โซเดียว โปแตสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง กรดไขมัน และโคเลสเตอรอล เนื้อหมูพบว่ามีปริมาณฟอสฟอรัสปานกลาง ส่วนปริมาณแร่ธาตุอื่นๆ ในเนื้อหมูมีปริมาณอยู่น้อย
4.ขนมปัง
ขนมปังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระอันอุดมสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่นๆ ของขนมปัง งานวิจัยของเขามาจากการตรวจสอบขอบขนมปัง เนื้อขนมปัง และแป้งธรรมดา พบว่าขอบขนมปังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า โพรนีลไลซีน (pronyl-lysine) มากกว่าในส่วนที่เป็นขนมปังขาว 8 เท่า ขณะที่แป้งธรรมดาไม่มีเลย หมายความว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่ว่าจะเกิดขึ้นต่อเมื่อขนมปังผ่านกระบวนการอบมาแล้วเท่านั้น
สารโพรนิลไลซีน เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของกรดอะมิโนแอล-ไลซีน แป้ง และน้ำตาล ในขั้นตอนการอบ เรียกว่าปฏิกิริยาเมลาร์ด (Maliiard reaction) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลบนผิวหน้าของขนมปังที่ผ่านการอบแล้ว และกระ บวนการนี้ยังเป็นตัวสร้างสารให้กลิ่น รสชาติให้ขนมปัง รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ

5. ข้าวโพด
ในข้าวโพดจะมีสาร เบต้าแคโรทีน (β-carotene) หรือที่เรารู้กันว่าเป็น โปรวิตามินเอ ร่างกายเราจะนำไป ใช้สร้างสาร โรดอปซินนะครับช่วยให้ลดอัตราเสื่อมของลูกตาและป้องกันการเป็นโรคต้อกระจกตาด้วย อีกทั้งยังมี โฟเลตซึ่งจะช่วย สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอในการเสื่อมสภาพของร่างกาย
 ป้องกันโรคหัวใจ ข้าวโพดจะมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ผูกกับใยที่ละลายกับน้ำดีจากคอเลสเตอรอลในตับของเรา ซึ่งจะช่วยให้คอเลสเตอรอลในร่างกาย สลายไปได้ดีอีกด้วย แถมยังอุดมไปด้วยโฟเลต, วิตามินบีที่ช่วยในการลดระดับของ homocysteine, กรดอะมิโนที่ตามผลิตภัณฑ์ในกระบวนการเมตาบอลิสำคัญ (เรียกว่ารอบการเติมหมู่เมธิ) ระดับสูงของ homocysteine สามารถทำลายเส้นเลือดที่นำไปสู่หัวใจวายโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดความดันในร่างกาย
ต้านมะเร็ง นอกจากข้าวโพดจะมีสารที่ช่วยในการสร้าง โรดอปซิน ที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว ข้าวโพดยังช่วยลดความเสี่ยงของโรค มะเร็งปอด และเส้นใยในข้าวโพดยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารเพื่อสุขภาพจึงลดความเสี่ยงของโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่
ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร เส้นใยอาหารแบบไม่ละลายน้ำ ในข้าวโพดจะช่วยให้ดี สำหรับริดสีดวงทวาร จากโรคทางเดินอาหาร หรืออาหารท้องผูก ทุเลาลง เนื่องจาก เส้นใยจะช่วยดูดซับน้ำ และช่วยระบบขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยบำรุงผิวพรรณ อย่างที่เราทราบกันดีเรื่อง สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ในข้าวโพด ทำให้ผิวพรรณของเราไม่เหี่ยวย่น เปล่งปลั่งดูสดชื่นมีชีวิตชีวา
2.3 สมรรถนะในการทำงาน
ระบบสมรรถนะในการทำงาน (Competency Model) เป็นเครื่องมือบริหารจัดการ ทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้บริหารทุกระดับสามารถนำมาใช้ในการ สรรหา รักษา และพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ทักษะ และความสามารถและบุคลิกลักษณะเฉพาะตรงตามที่ ตำแหน่งกำหนด เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามผลตามที่คาดหวังไว้
สมรรถนะในการทำงาน (Competency) หมายถึง ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ (Knowledge, Skills, Personal Attribute) ของบุคคลที่จำเป็นต้องมี เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้ประสบผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้
ความรู้ (Knowledge) หมายถึง ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้ พนักงานก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบได้อย่างถูกต้อง ความรู้นี้มักจะได้จากการศึกษา อบรม สัมมนา รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้มีความรู้ในด้านนั้นๆ
ทักษะ (Skills) หมายถึงทักษะ ความสามารถเฉพาะที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้า ไม่มีทักษะแล้ว ก็ยากที่ทำให้พนักงานทำงานให้มีผลงานออกมาดีและตามเป้าหมายที่กำหนด ไว้ได้ ทักษะนี้มักจะได้มาจากการฝึกฝน หรือกระทำซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความ ชำนาญในสิ่งนั้น
คุณลักษณะส่วนบุคคล (Personal Attribute) หมายถึง คุณลักษณะ ความคิด ทัศนคติ ค่านิยม แรงจูงใจและความต้องการส่วนตัวของบุคคล คุณลักษณะเป็นสิ่งที่ติดตัวและ เปลี่ยนแปลงได้ไม่ง่ายนักคุณลักษณะที่ไม่เหมาะสมกับหน้าที่มักจะก่อให้เกิดปัญหาในการ ทำงาน และทำให้งานไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย
2.4 การทำโครงงานอาชีพ
                โครงงานอาชีพเป็นการจัดการเรียนรู้งานอาชีพที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงอย่างครบวงจร  ตั้งแต่ การวิเคราะห์ การวางแผน การปฏิบัติงาน การจัดการกับผลผลิต  การจำหน่าย การบริการ รวมทั้งรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตหรือบริการ โดยเน้นการผลิต การบริการ การบริหารจัดการ การตลาด และการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน ลักษณะของงานอาชีพตามโครงงานที่ปฏิบัติต้องเป็นงานอาชีพสุจริตที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรืองานอาชีพที่เป็นความต้องการของผู้เรียน  เป็นงานอาชีพที่มีลักษณะเป็นงานผลิตและหรืองานบริการ  การปฏิบัติงานอาชีพ ผู้เรียน ต้องเป็นผู้ปฏิบัติเองทั้งหมด  ตั้งเริ่มต้นจนสิ้นสุดการปฏิบัติงาน โดยมีครูอาจารย์ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและการปฏิบัติโครงงานอาชีพให้ปฏิบัติรวมกันเป็นกลุ่ม โดยใช้ โรงเรียน สถานประกอบการ สถานประกอบอาชีพ รวมทั้งสถานศึกษา เป็นสถานที่ปฏิบัติงานและในการจัดทำโครงงานอาชีพของผู้เรียน ควรมีผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้ประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพที่มีอยู่ในท้องถิ่นร่วมวางแผนและให้คำปรึกษาในการปฏิบัติงานอาชีพของผู้เรียนด้วย

ประโยชน์ของโครงงาน
1. สามารถทำให้ผู้อ่านสามารถทราบรายละเอียดในการทำงานอย่างเป็นระบบ และเข้าใจได้ง่าย
2. ทำให้เห็นความพร้อมต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน
3. ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงานให้น้อยลงและสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ง่าย
4. ช่วยให้การนิเทศ ติดตาม และประเมินผลของครูและผู้ที่เกี่ยวข้องทำได้ง่าย













บทที่ 3
การดำเนินการโครงงาน
3.1 วิธีการดำเนินงาน
                   3.1.1 ปรึกษาหารือในกลุ่ม ในการทำโครงงานอาชีพ
                   3.1.2 ปรึกษากับครูที่ปรึกษา เพื่อหาแนวทางการทำโครงงาน ปรึกษาท่านผู้อำนวยการโรงเรียน เชิงขอคำแนะนำ ข้อคิดเห็น และได้รับการสนับสนุน
                   3.1.3 ปรึกษาครูที่ปรึกษาโครงงานเพื่อหาข้อสรุปร่วมในการเลือกเรื่องในการทำโครงงาน
                   3.1.4 วิเคราะห์การทำโครงงานให้เกิดความหลากหลาย โดยยึดว่านักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน และโครงงานต้องพัฒนาได้และเกิดคุณค่าทางโภชนาการ
                   3.1.5 ค้นหาข้อมูลการทำโครงงานอาชีพ
                   3.1.6 ดำเนินการทำโครงงานอาชีพ
                    3.1.7 ติดตามประเมินผล
                    3.1.7 รายงานผล
                    3.1.8 นำเสนอผลงาน
3.2 วัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำ

                    1. ขนมปัง
                    2. แอปเปิล
                    3. ผักสลัด
                    4. ลูกเดือย
                    5. ข้าวโพด
6. มายองเนส
7. ซอสมะเขือเทศ/ซอสพริก
8. แฮม
9. ถาด
10. กรรไกร

วิธีทำ
            ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์
                                1. นำผักสลัดมาล้างน้ำให้สะอาด
2. นำข้าวโพดมาฝานเอาเมล็ดพร้อมทั้งผ่าแอปเปิลให้ขนาดพอดีคำ
3. ตัดแฮมที่เตรียมไว้อย่างละครึ่งซีก  
                                         
 บทที่ 4
แซนด์วิชหรรษา
4.1 สรุปผลการวิเคราะห์
                   การดำเนินงานตามขั้นตอน จากการทำโครงงานอาชีพแซนด์วิชหรรษา นักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในการทํางาน มีพฤติกรรมที่สร้างสรรค์ และยังเป็นการแก้ปัญหาความยากจน ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง โดยเป็นการสร้างงานให้นักเรียน มีงานทําตามที่ตนถนัด  มีประสบการณ์วิชาชีพ ซึ่งเป็นการพัฒนาอาชีพสู่รายได้อย่างเหมาะสมเป็นระบบ ที่ยั่งยืนตลอดจนเป็นการเสริมประสบการณ์ที่จะสนับสนุนอาชีพในอนาคตอีกทางหนึ่ง เป็นการเตรียมพร้อมให้แก่ตนเองก่อนที่จะจบการศึกษา และเข้าสู่การทํางานจริงในอนาคต รวมทั้งเป็นการหารายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อไป
ผลที่เกิดขึ้น :
                   ด้านพฤติกรรม นักเรียนเกิดการเรียนรู้ทักษะกระบวนการต่างๆ ในการทำงาน มีวินัยในตนเอง ทั้งในเรื่องการกิน การอยู่ การดูและการฟังอย่างสร้างสรรค์ ใส่ใจในการประกอบอาชีพที่สุจริต รักการทำงาน มีความมั่นใจในตนเองยึดมั่นในคุณธรรม 8 ประการและสามารถแบ่งเบาภาระของครอบครัว ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และไม่มั่วสุมเกี่ยวกับยาเสพติด
                   ด้านจิตใจ : นักเรียนมีความสุขจากการทำโครงงาน เกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าแห่งตน
                   ด้านปัญญา : นักเรียนได้เรียนรู้การประกอบอาชีพ  แนวทางการวางแผนเพื่อการประกอบอาชีพที่หลากหลายจนเกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์



บทที่ 5
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการดำเนินการโครงงาน
                กลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนเซนต์โยเซฟแม่ระมาด จึงได้จัดทำโครงงานนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศึกษาการทำแซนด์วิช และการศึกษาคุณค่าทางอาหารของแซนด์วิช กลุ่มประชากรได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน  5   คน ร่วมกันทำโครงงานอาชีพการดำเนินงานตามขั้นตอน จากการที่ได้ทำโครงงานอาชีพแซนด์วิชหรรษา นักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในการทํางาน มีพฤติกรรมที่สร้างสรรค์ และยังเป็นการแก้ปัญหาความยากจน ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง โดยเป็นการสร้างงานให้นักเรียน มีงานทําตามที่ตนถนัด  มีประสบการณ์วิชาชีพ ซึ่งเป็นการพัฒนาอาชีพสู่รายได้อย่างเหมาะสมเป็นระบบ ที่ยั่งยืนตลอดจนเป็นการเสริมประสบการณ์ที่จะสนับสนุนอาชีพในอนาคตอีกทางหนึ่ง เป็นการเตรียมพร้อมให้แก่ตนเองก่อนที่จะจบการศึกษา และเข้าสู่การทํางานจริงในอนาคต รวมทั้งเป็นการหารายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อไป
                   สรุปผลการดำเนินงานโครงงานอาชีพในครั้งนี้ถือว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์  และเป้าหมายที่ทางกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  มีการดำเนินงานที่สุจริต และมีทักษะในการทำงาน  สู่การประกอบอาชีพที่ดีในอนาคต
5.2 แผนการดำเนินงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
                   - ขยายผลสู่น้องๆ ในโรงเรียน เพิ่มมากขึ้น
                   - ต่อยอดโครงงาน การสร้างสรรค์ความรู้ คุณธรรม ทักษะ ความคิด สู่อาชีพในฝัน



บรรณานุกรม